ปัจจุบันนั้นอาหารในเมืองไทยนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะมีร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นมากมายในเมืองทำให้ชาวเมืองอย่างเรานั้นสะดวกสบายด้านการกิน ในร้านสะดวกซื้อมีอาหารหลากหลายประเภท ผมขอแยกออกเป็นอาหารพร้อมทานสองประเภทง่ายๆ คือ แบบเค็ม และแบบหวาน สาเหตุที่แยกแบบนี้เพราะผมแยกตามรสชาติแบบง่าย

เหตุใดจึงหวานเค็ม
สังเกตจากขนมขบเคี้ยวที่ทานกันไม่ว่าจะเป็นขนมซอง มันฝรั่งทอด อบ นั้นมีมากมายหลายรสชาติ ซึ่งอุดมไปด้วยโซเดียมที่มีความเค็มเป็นหลักผมจึงของเรียกมันว่าเป็นของเค็ม  ส่วนของหวานนั้นคือพวกลูกอม ช๊อกโกแลต รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำตาล และมีอีกอย่างที่แถมมาคือของมัน พวกขนมปัง ไส้กรอก นั้นอุดมไปด้วยไขมันทั้งนั้น

หวานเค็มรสธรรมดาแต่ทำไมถึงอันตราย
คนเราเริ่มติดกับรสชาติ เวลาทานอะไรต้องเลือกทานของที่อร่อยมากกว่าคำนึงถึงสารอาหารจึงทำให้วิถีการกินนั้นเปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองต่อรสชาติผู้ผลิตก็ต้องคิดค้น ปรุงแต่งรสชาติให้อร่อย การทานหวานนั้นนำมาซึ่งโรคอ้วน เบาหวาน แม้ข้อดีจะทำให้สดชื่นแต่ในระยะยาวกลับส่งผลร้ายมากกว่า เมื่อทานน้ำตาลเข้าไปแล้วความหวานจะเข้าไปสู่ในเส้นเลือดทำให้เลือดเกิดความข้นไหลเวียนได้ลำบากเปรียบเสมือนท่อน้ำที่มีน้ำโคลนทำให้น้ำไหลลำบากการนำออกซิเจนไปให้เซลก็ลำบากมากขึ้น อวัยวะอื่นๆก็เริ่มเสื่อมตามมา ส่วนความเค็มนำมาซึ่งความดัน และทำให้ไตทำงานหนัก หากความดันสูงก็อาจจะส่งผลให้เป็นอัมพาต

วิธีการลดเค็ม ลดหวาน อย่างง่ายๆ
1. ลดทานน้ำหวาน ไม่ว่าจะชาเขียว กาแฟใส่น้ำตาล รวมไปถึงน้ำผลไม้ หากยังชอบทานอยู่ก็ทานให้น้อยลง จากวันละ 2 แก้ว ก็เหลือ 1 หากแก้วเดียวก็บอกให้คนขายลดน้ำตาล
2. ลดขนมหวาน วายร้ายตัวสำคัญของความอ้วน หลังอาหารนั้นมักจะชอบทานของหวานโดยเฉพาะขนมไทย ผมเคยทานข้าวเหนียวถั่วดำ วัดน้ำตาลออกมา 180 ตกใจมาก หลังจากนั้นก็พยายามทานให้น้อยลง แม้ว่าจะตั้งใจตัดขาดแต่ยังตัดไม่ได้เช่นกัน
3.ลดปรุงน้ำตาลเพิ่ม การทานก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารต่างๆมักจะมีเครื่องปรุงให้ใส่ ลองตัดใจไม่ใส่น้ำตาลดูเชื่อไหมว่าลิ้นเราจะปรับตัวเองไม่ต้องปรุงก็สามารถอร่อยกับอาหารจานเหล่านั้นได้ (เพราะร้านอาหารมักจะปรุงมาอยู่แล้ว)
4. ลดขนมซอง ขนมซองทั้งหมดมีรสชาติอร่อยผ่านการปรุงรสมามากมายจนทำให้เป็นที่ชื่นชอบ แต่สิ่งที่ได้มาคือโซเดียมที่มากมาย แบ่งทานเป็นหลายๆครั้ง เราก็สามารถลดปริมาณโซเดียมได้